วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ฟิคมารยา 16 แหกกฎ


"มึงดื้อกับกู มึงทำตัวของมึงเอง กูเอามึงจนเดินไม่ได้เลย คอยดู !"

"ฮึก"

ทำได้เพียงกลั้นเสียงสะอื้น และหลบสายตา ปล่อยให้น้ำตาระบายทุกสิ่งที่ใจนึกคิดได้ ไม่เหลือแล้วความรู้สึกดีๆ ไม่มีแล้วความรักที่เคยหวัง 

ชานยอลไม่ได้รักเราแล้ว
เสียงเดียวที่ย้ำเตือน 


อึก!!!

"เจ็บ .." เสียงแหบพร่าแผดลั่น

 รอยฟันฝังลึกลงไหล่ขาวเนียน เกิดรอยฝังแค้นแดงฉานเจ็บปวดไปทั่วทั้งความรู้สึก

“ชานยอลพอเถอะ ... พอเถอะนะ”

เสียงเว้าวอนดังแผ่ววขึ้นต่อหน้า ชานยอลไม่สนใจ ถอดเสื้อยืดแบนหรูออกจากตัว มองเหยียด ๆ เยี่ยงอีกคนไร้ค่านัก สับสนตัวเอง ว่าที่ทำอยู่ คือแค้นฝังใจ หรือแค่หึงหวงเท่านั้น

แล้วจะหึงทำไมว่ะ !

“มึงได้เจ็บกว่านี้แน่ เพราะกูจะเอามึงจนเดินไปไหนไม่ได้เลย !!

“เลว .!

“กูเป็นกับมึงเท่านั้นแหละ !

ว่าแล้วก็พลิกร่างที่ถูกมัดให้มอบคลานลงกับเตียง มือที่ถูกมัดแน่นด้วยเข็มขัดยัดตัวเองให้ทรงตัว ใบหน้าที่ถูกตบ แนบทับลงที่นอน แผงอกกระเพื่อมหอบหายใจอย่างหนัก เหมือนจะขาดใจ

กางเกงขาสั้นสีดำถูกดึงออกไปจากร่างขาวซีด พร้อมกับกางเกงยีนสีน้ำเงินของร่างสูงที่ถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว

แกนกลางสีเนื้อขยายใหญ่เต็มอุ้งมือ ชานยอลสาวชักเล็กน้อยก่อนประคองร่างที่นอนนิ่งให้โก้งโค้งขึ้น สะโพกอวบถูกประคองไว้ด้วยแขนแกร่งและการชันเข่าแกมบังคับ

ร่างกายสั่นสะท้าน ร่ำไห้กับที่นอนอย่างยอมแพ้ ไม่ได้ยินเสียงใด ๆ มีเพียงเสียงสะอื้นเบา ๆ ที่ดังเข้าหูชานยอล แต่กระนั้น ร่างสูงก็มิได้สำนึก หรือล้มเลิกความตั้งใจ บดเบียดแกนกายร้อนผ่าว ผ่านช่องทางกลีบกุหลาบรับการตอดรัดที่สุดซี้ดอย่างพอใจ

“ซี้ดดดดดดด”

“อึก ! .. .ฮึก .. ฮึก !!

ความเจ็บจากการถูกสอดแทรกโดยไม่เปิดทาง ทำให้ร่างเล็กเกร็งไปทั้งตัว มือที่ถูกมัดไว้จิกลงที่นอน ฟันสวยขบกัดปากบางจนเลือดไหลซึม ๆ ออกมา หลับตาปี้กดความรู้สึกไว้ เก็บแน่นไว้ในหัวใจ

อึก !

กระแทกแกนกายเข้ามาอีกจนสุด ความเจ็บ ความจุก วิ่นพล่านไปทั้งตัว ร่างกายแข็งทื่อจนไม่กล้าขยับไปไหน แม้อยากจะออ้นวอนขอให้ถอนแกนกายนั้นออกไป แต่ก็ดูท่าว่าจะไม่ได้ผล

“อยู่นิ่ง ๆ นั่นแหละดีแล้ว ถ้าไม่ขัดใจกู เดี๋ยวลดโทษให้”

เสียงพูดเยือกเย็นเอ่ยออกมาอย่างเฉยชา ใช้มือสองข้างบีบเค้นสะโพกอวบไว้แน่น แล้วเริ่มขยับแกนกายเข้าออกช้า ๆ อย่างใจเย็น

“อือ...อ่า .. อ๊ะ อ๊ะ อ๊า”

เสียงทุ้มต่ำร้องครางออกมาเบา ๆ กระแทกกระทั้งแกนกายสุด จนสะโพกอวบกระทบกับหน้าท้องแกร่งดัง

พั่บ พั่บ

ในขณะที่อีกคนกำลังเสพสุข แต่อีกคนกำลังปวดร้าว แบคฮยอนไม่ได้มีอารมณ์เลยแม้แต่น้อย ร่างกายที่ทรุดโทรมจากพิษไข้ถูกซ้ำหนักด้วยการกระทำที่หยาบคาย ทั้งยังไม่สนใจในสิ่งที่แบคฮยอนกำลังสัมผัสเจอ

ความเอาแต่ใจ ความคิดแค้น มันช่างครอบงำคนดี ๆ ได้ทั้งคน จากคนที่เคยพูดว่า รักมาก จากคนที่เคยบอกว่าจะปกป้อง กลับกลายเป็นคนคนเดียวกันที่คอยทำร้ายจิตใจ ซ้ำเติมร่างกายจนระบมไปหมดเช่นนี้

พรึบ !

ร่างเล็กถูกพลิกให้นอนหงายอีกครั้ง พร้อมยัดหมอนใบใหญ่รองใต้สะโพกเล็กให้สานต่อท้วงท่าอย่างสะดวกยิ่งขึ้น

บทรักหยาบโลนเริ่มเล่นอีกครั้ง เมื่อแกนกายที่ถูกถอนออกเมื่อครู่ บดเบียดกายเข้ามาใหม่ ครั้งนี้ทั้งรัด ทั้งขมิบ ร่างกายตรงหน้าช่างร้อนแรงผิดกับการกระทำยิ่งนัก

“อื้ม .. อ่ะ อ.. อ๊ะ”

เสียงครางอย่างพอใจดังออกมาต่อเนื่องไม่ขาดสาย เป็นการลงโทษที่โคตรเอาแต่ใจ และเห็นแต่ได้โดยผู้คุม ทุกครั้งที่แกนกายกระแทกเข้าไป เสียงร่ำไห้ก็ดังขึ้นทุกครั้ง แม้จะขัดใจไม่น้อย แต่ก็สะใจดีที่ได้ยินเสียงร่ำไห้นั้น

“ไม่มีอารมณ์ร่วมกับกูหรอ ... สงสัยกูจะไม่เด็ดเท่าจงอินสินะ”

คิดได้ยังนั้นโดยฟังคำตอบจากแบคฮยอน ร่างเล็กทำเพียงส่ายหน้ากับการถือตนอย่างชานยอล หลายครั้งต่อหลายครั้งที่พร่ำบอก ว่าครั้งคือชานยอล และทุกครั้งก็ชานยอล แต่ทำไมนะ ทำไมร่างสูงจึงต้องกระแทกกระทั้นกันด้วยคำพดเสียดสีและพาดพิงถึงจงอิน

“ใช่ ! จงอินเด็ดกว่ามึงเยอะ !

ในเมื่อไม่เชื่อ ก็ใส่ไฟไปเลยเป็นไง !

“อ่ะ อึก .. อึก .. อ่ะ อ๋าาาา”

เสียงครางร้องบนกับเสียงสะอึก เมื่อคำพูดเมื่อครู่ทิ่มแทงใจดำของชานยอลอย่างตั้งใจ ร่างสูงเกรี้ยวโกรธยิ่งนัก ที่ได้คำพูดเช่นนั้นจากแบคฮยอน เร่งเร้ากระแทกสะโพกเข้าออกอย่างคับแค้น กัดฟันกรอดจนได้ยินเสียงฟันกระทบกัน

พั่บ พั่บ พั่บ

เร่งสะโพกแกร่งให้กระแทกลึกเข้าไปจนสุด เบียดมันเข้าไปอย่างนั้นอย่างสุดแรง และกระแทกเข้าไปใหม่อย่างไม่สนใจในความเจ็บช้ำ ไม่ว่าเสียงกรี๊ดร้อง หรือร่างกายที่ดิ้นทุรนทุราย ก็มิอาจจะทำให้หยุดได้ มีแต่จะซ้ำเติม จะทรมานให้หนักเข้าไปอีก

“อึก .. ! พอ .. อ๊ะ ..  พอแล้วชานยอล ... อ่ะ อ๊ะ”

“หึ !” แสยะยิ้มมุมปาก

“ฉัน อึก ... ฉันจะไม่หนี ... อ๊ะ อ๊ะ .. ฉันจะไม่ติดต่อ”

“พูดให้จบ !

“ฉันจะไม่ อึก ... ติดต่อกับจงอิน .. ฮึก .. อีกแล้ว”

พูดออกไปอย่างขืนใจ เสียใจนักที่ต้องพูดออกไปเช่นนั้น แต่ถ้าหากไม่พูด ไม่ยอมแพ้ ร่างกายนี้คงต้องแหลกเป็นเสี่ยง ๆ หรือไม่ก็ต้องตายคามือคนใจร้ายแน่ ๆ

“หึ ! พูดแล้วนะ อย่าให้กูได้ยินอีก”

ร่างสูงกระแทกแกนกายเข้าออกอีกสี่ถึงห้าครั้ง น้ำรักสีไข่มุกก็ล้นทะลักออกมาถึงข้าง ถอนแกนกายออกมาช้า ๆ รูดรั้งต่อข้างนอกจนปล่อยออกหมด และทิ้งร่างของแบคฮยอนให้แนบลงกับเตียง โดยดึงหมอนใบหนาออกทิ้งไป

ร่างเล็กนอนหอบหายใจทางปาก ดวงตาพร่าเบลอกระพริบช้าลงเรื่อย ๆ จากที่มองเห็นใบหน้าหล่อคมคายเด่นชัด ก็เริ่มจางขึ้นทุกที

พร่ามัว  เจือจาง  และหายไป



..........................................
พร่ามัว เจือจาง และหายไป ....
อย่าหายไปเลยนะคอมเม้น แท๊ก #ฟิคมารยา ด้วยคะ
กลับไปเม้น ทางนี้เลย คลิก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น