วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562

บทเรียน(คน)ของครูมีน

บทเรียน(คน)ของคุณครูมีน


(เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป)

กาลนี้คงไม่ต้องเอ่ยขอกันแล้วว่าสิ่งใดควรเกิดขึ้นก่อนนอน ในขณะริมฝีปากบดจูบอย่างดูดดื่มนั้น มือหนาก็แกะกระดุมเสื้อที่ใส่ให้ไข่ตุ๋นออกทีละเม็ด เหลือไว้เพียงเม็ดสุดท้าย เพราะตั้งใจจะมองร่างเปลือยเปล่าของไข่ตุ๋นในเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของตน 

ผิวขาวเนียนที่ไร้สิ่งใดแต่งแต้ม ชวนให้ครูมีนตาลุกวาวทุกครั้งที่ได้เห็น และสุขใจยิ่งนักเมื่อรอยสีกุหลาบที่เกิดขึ้นผิวใสนั้นมาจากริมฝีปากตน ไม่ใช่เพียงรอยเดียวที่เกิดขึ้นตรงเนินอก แต่ยังมีรอยไปทุกที่ที่ริมฝีปากลากถึง 

อ๊ะ ! ครูมีน

แถมยังฝากรอยคมเขี้ยวตรงซอกคอไว้เล็ก แดงเทือกจนผิวห่อเลือด โดยไม่คิดจะออมแรง แม้ว่าพรุ่งนี้ตนจะนัดกับที่บ้านไว้แล้วก็ตาม ซึ่งน่าจะรวมกับอย่างอื่นที่มากกว่าจูบด้วย

ไข่ตุ๋นโดนเล้าโลมด้วยสัมผัสร้อนผ่าวจากฝ่ามือหนาและรอยจูบที่ประทับไปบนร่างกายนั้นอย่างร้อนแรง ...ครูมีนบีบจับร่างกายไข่ตุ๋นไปทุกส่วน หยอกเย้ายอดอกที่ชูชันและครอบงำด้วยริมฝีปาก ให้ความรู้สึกปลุกไข่ตุ๋นให้ตื่นตัวขึ้น แอ่นอกรับสัมผัสไปกับเขา ซึ่งนั่นเป็นภาพที่เซ็กซี่มาก จนร่างกายของครูมีนก็ปวดหนึบจนอยากปลดปล่อย 

คืนนี้ครูไม่ออมมือนะ เพราะน่าจะห้ามตัวเองไม่ได้

คำเตือนของครูมีนทำให้ไข่ตุ๋นกลืนน้ำลายอึกใหญ่ กระนั้นก็เพียงสูดลมหายใจแล้วพยักหน้ารับสัมผัสที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เป็นการอนุญาตให้ครูมีนลงแรงให้เต็มที่ และเป็นครั้งแรกที่สัมผัสนี้เกิดขึ้นในฐานะแฟนกัน

ชันขาขึ้นแล้วไม่ต้องเกร็งนะ ขั้นตอนนี้ครูจะอ่อนโยนกับเราก่อน

มะไม่ต...อื้อออ

คำห้ามปราบของไข่ตุ๋นใช้ไม่ได้หรอก ในเมื่อส่วนสงวนชูชันเพราะอารมณ์พุ่งพล่านขนาดนั้น เมื่อสัมผัสบริเวณส่วนหัว น้ำใสก็เริ่มปริ่มจนเลอะปลายนิ้วของครูมีนเสียแล้ว และเมื่อฝ่ามือของครูมีนเริ่มขยับ ร่างเล็กก็บิดเกร็งหนักขึ้น สบัดหน้าออกจากบทจูบที่ครูมีนหวังเบี่ยงความสนใจ ให้ตัวเองได้สูดอากาศระบายความอึดอัดได้ทัน เป็นความกระวนกระวายของเด็กอายุ 17 ที่กำลังจะเสร็จครั้งที่ 3 ในชีวิต ด้วยการช่วยเหลือจากครูมีนอีกครั้ง และจิกเล็บลงแน่นบนไหล่แกร่ง ยามเมื่อเสียงครางในลำคอ ไม่เพียงพอกับการปลดปล่อยที่หลั่งไหลออกมาเต็มฝ่ามือ

ฮือออ เหมือนใจจะขาดเลย” 

ไข่ตุ๋นนอนหายใจอย่างเหนื่อยหอบ พลางมองหน้าครูมีนที่กระตุกยิ้มอย่างพอใจ อาศัยจังหวะที่ไข่ตุ๋นกำลังอ่อนแรง ยืนขึ้นบนเตียงแล้วถอดกางเกงตัวเองออกบ้าง สำรวจของลับที่ชูชันไม่ต่างกันอย่างพร้อมใช้งาน พร้อมสาวชักด้วยมือตัวเองอีกสองสามครั้งพอให้ขยายจนสุด และก้าวเท้าเข้ามาอยู่ตรงหว่างขาของไข่ตุ๋น เพื่อรุดตัวลงเริ่มกิจกรรมต่อไป 

ทว่าไข่ตุ๋นลุกขึ้นนั่งในท่าที่พับขาสองข้างไปด้านหลัง เสื้อตัวโคร่งที่ถูกปลดกระดุมออกจนเกือบหมดก็ตกออกจากไหล่ข้างหนึ่ง จนเห็นผิวเนียนละเอียดไปถึงลาดไหล่ข้างหลัง และที่มากไปกว่านั้น คือมือเล็กที่จิกไหล่เขาก่อนหน้า วางแนบอยู่บริเวณโคนขาที่ใกล้จุดเสียวมาก ครูมีนจ้องดูว่าไข่ตุ๋นจะทำเช่นไร ท่าทางเขินอายที่แม้จะมองภาพตรงหน้าให้ชัดยังลำบาก แล้วมือเล็ก ที่ทำเป็นเก่งนี้ จะเก่งได้แค่ไหน
 หนูจะทำอะไรครับ บอกครูสิ” 

คำถามของครูทั้งหยอกเย้า ทั้งเรียกให้คนที่นั่งอยู่เงยขึ้นสบตา แต่ไข่ตุ๋นกลับเอื่อยเอ่ยสิ่งใดไม่ออก นอกจากมองหน้าครูมีนและเผลอไปมองแกนกายของครูมีนเข้าอย่างจัง ลำคอที่แห้งผาก ก็ยังฝืนกลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก 

นอนลงไปดีกว่า ท่านี้ไม่ดีหรอกครับ

ครูมีนพูดแล้วกำลังจะรุดตัวลงเพื่อผลักไข่ตุ๋นให้นอนราบลงไปเช่นเดิม แต่มือเล็กจับร่างกายครูมีนไว้ และส่งสายตาเว้าวอนที่ต้องยอมแพ้ทุกอย่างจริง  

เค้าเคยอ่านมาว่าผู้ชายชอบให้ทำแบบนี้...”

แบบ ?”

ไข่ตุ๋นกลืนน้ำลายอีกครั้ง เป็นเรื่องยากมากที่จะทำตามความคิด แต่ก็อยากเอาใจครูมีนตามประสาเด็กไร้เดียงที่กำลังเรียนรู้โลกคนหนึ่ง ไข่ตุ๋นกล้า กลัว ที่จะสัมผัสกับสิ่งนั้น แต่ก็ขยับอย่างเชื่องช้าจนสามารถวางมือทับบนมือหนาของครูมีนได้ และต้องเป็นหน้าที่ของครูมีนที่ต้องสอนบนเรียนนี้ให้กับผู้เรียน โดยการจับมือเล็กวางบนแท่งเนื้อที่ร้อนและแข็ง ประกบมือนั้นด้วยมือของตน เพื่อให้มือเล็กคุ้นชิน และเริ่มขยับให้รู้จังหวะและสัมผัสเมื่อทำเช่นนี้ 

แต่สิ่งที่ไข่ตุ๋นคิดไว้มันมากกว่านี้ เพราะร่างเล็กเริ่มเปลี่ยนท่านั่งให้ตัวเองดันขึ้นอีกนิด คราวนี้ครูมีนถึงกับปล่อยมือตัวเองออก และให้ไข่ตุ๋นเรียนรู้ตามสัญชาตญาณของ sex หรือแม้แต่ข้อความที่เจ้าตัวบอกว่าอ่านมา เพราะถ้าหากไข่ตุ๋นกล้าทำจริง คนที่มีความสุขที่สุดในโลก ก็คือคนที่ยืนอยู่ตรงนี้แหละ

อ๊ะ ! อ่าส์..”

คุณครูมีนถึงกับหลุดเสียงครางออกมา เมื่อโพรงปากนุ่มครอบครองแกนกายของเขาเข้าเต็มปาก และจะด้วยความไม่ประสาหรือความอะไรก็แล้วแต่ เรียวลิ้นที่ถูกห่อเข้าไปด้านใน ไร้ซึ่งประสบการณ์ทุกอย่าง กำลังซุกซนอย่างไม่รู้หน้าที่ แต่นั่นเป็นการกระทำที่ครูมีนแทบทรุดตัว เพราะความอ่อนไหวปัดป่ายกับจุดอ่อนไหวของเขาได้อย่างรุนแรงเหลือเกิน

ลองขยับดูไหม

เมื่อได้ยินเช่นนั้นไข่ตุ๋นก็เลยทำตาม เก้ กัง ไปบ้างตามประสา แต่ก็ทำให้ร่างกายของครูมีนพุ่งถึงขีดสุดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ และมันไม่ดีแน่หากจะปลดปล่อยออกมาตอนนี้ ถึงภาพที่มองลงด้านล่างจะเป็นภาพที่สวยงามมากก็เถอะ

แค่ก ! แค่ก

ครูไม่ให้ไข่ตุ๋นเรียนรู้ต่อแล้ว เพราะปากเล็กสำลักออกมาจนตัวโยน รีบจัดการไข่ตุ๋นให้นอนราบลงไปกับพื้นเตียง แล้วเบียดลงตรงหว่างขา ทาบทับร่างกายไปบนร่างเล็กทุกส่วน พร้อมกับโน้มจูบที่ริมฝีปากเล็ก แล้วเอ่ยชิดใบหูว่าเก่งมาก ครับให้คนฟังหน้าแดง หูแดงเพราะความเขิน 

ไว้ครูจะสอนใหม่ ตอนนี้ให้ครูจบเรื่องของเราในคืนนี้ก่อนดีกว่า

อื้อ แล้วแต่ครูมีนเลย

น่ารัก” 

ครูมีนหอมแก้มเนียนอีกฟอดใหญ่แล้วเอื้อมมือหยิบอุปกรณ์ที่มีออกมา เป็นเจลที่ใช้ในเรื่องอย่างนี้และถุงยางที่มีพกไว้ตลอด แต่อยู่ มือหนาที่กำลังจะฉีกถุงก็โยนมันทิ้งไป ตัดสินใจที่จะไม่ใช้ แล้วใช้เพียงเจลเท่านั้น

ครูมีน...”

ครูไม่เคยใช้สิ่งนั้นกับเราเลย แต่ไว้ใจเถอะนะ ไข่ตุ๋นเป็นคนเดียวที่ได้ใกล้ชิดกับครูขนาดนี้ คนเดียวจริง

ไม่ว่าตอนนี้จะเป็นยังไง ก็ไร้ข้อกังขาไปหมดทุกอย่าง ไข่ตุ๋นยอมให้ครูมีนจับขาทั้งข้างแยกออกจากกัน รับสัมผัสเย็น จากเจลที่บีบลงตรงนั้น และกำผ้าปูที่นอนแน่นในตอนที่ครูมีนสอดนิ้วเข้าไปด้านใน ถึงจะยังเจ็บอยู่ แต่ก็น้อยกว่าครั้งที่ไม่มีเจลเลย และเมื่อนิ้วที่สอง สาม ตามเข้ามา ช่องทางกรีบกุหลาบก็พร้อมให้ครูมีนแนบชิดเข้าถึงด้านใน

ครูมีนสอดใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปด้านใน เรียกเสียงหวีดร้องของไข่ตุ๋นให้ดังคับห้อง เพราะขนาดของแกนกายที่พองขยายเต็มที่และนิ้วมือนั้นต่างกันลิบลับ แถมครูมีนก็ดันเข้ามาครั้งเดียวจนสุดลำ แบบนี้จะโทษว่าไข่ตุ๋นขมิบแรงไม่ได้นะ เพราะครูแกล้งไข่ตุ๋นก่อนเอง 

จะขยับแล้วนะครับ

ของแบบนี้ไม่ต้องพูดก็ได อ่ะ !”

ครูมีนขยับร่างกายทันทีเมื่อเอ่ยเตือนเสร็จ ความไม่อ่อนโยนที่ครูมีนเตือนไว้ตั้งแต่ต้น ก็คือการขยับช้า ให้ช่องทางคุ้นชิน และขยับจังหวะเร็วขึ้นจนไข่ตุ๋นต้องจิกมือไปกับที่นอน เป็นความดุดันและรุนแรง ที่หากไม่เอื้อมจับมือไข่ตุ๋นไว้ ก็อาจจะร่นขึ้นไปถึงหัวเตียง แต่นั่นมันยิ่งช่วยให้ครูมีนเข้ามาได้ลึกกว่าตอนที่จิกมือบนผ้าปูเสียอีก

ไข่ตุ๋นร้องครางออกมาไม่เป็นจังหวะ แสดงสีหน้าเหยเกเพราะกำลังหายใจไม่ทัน ทำให้ครูมีนผ่อนจังหวะลงแล้วโน้มตัวลงมาจูบอย่างปลอบโยน พร้อมทั้งดึงขาทั้งสองข้างของไข่ตุ๋น ให้ปลายเท้าเกี่ยวกันบนหลังของเขา แล้วกระแทกกระทั้นลงไปใหม่อีกครั้ง เต็มรัก เต็มแรก อย่างไร้การออมมือ ให้เสียงครางดังชัดในประสาทหู ตามมาด้วยน้ำเสียงร้องขอจวนจะขาดใจ

ไม่ไหวแล้ว ขะ ครูมีน อ่ะ ! เบา.. เบาหน่อย

ไข่ตุ๋นควรรู้ไว้อีกอย่าง เวลาขอร้องให้ครูเบา หนูไม่ควรน่ารักขนาดนี้

อ่ะ !! อ๊ะ !”

คำขอของไข่ตุ๋นไม่เป็นผล และยังเป็นจังหวะให้ครูมีนยืดตัวขึ้นนั่ง พร้อมกับเปลี่ยนท่าใหม่อีกครั้ง คราวนี้ขาทั้งสองข้างของไข่ตุ๋นถูกพับไปข้างหน้า เปิดช่องทางให้ครูมีนเบียดกายแนบชิดมากขึ้น ทุกครั้งที่กระแทกกายลงไป หน้าขาแข็งแกร่งก็กระทบกับสะโพกจนเสียงดังพั่บ กระตุ้นความบ้าคลั่งในร่างของผู้ชายคนหนึ่งออกมาอย่างเต็มที่ในจังหวะสุดท้าย 

แล้วก่อนที่แสงสีขาวจะกลืนกินภาพความคิดทั้งหมดนั้น ครูมีนโน้มตัวลงจูบกับไข่ตุ๋น ลูบไล้มือไปตามลำตัวผิวเนียนละเอียดอย่างชอบใจ กดแรงจูบซ้ำ พร้อมกระแทกกระทั้นด้วยจังหวะถี่ยิบ จนขาของไข่ตุ๋นไร้เรี่ยวแรง ทิ้งลงพื้นเตียงอย่างสู้ไม่ได้ ทำเพียงยกมือขึ้นกอดรัดกับแขนทั้งสองข้างของคุณครู และรับจูบที่ร้อนแรงในจังหวะสุดท้าย

อ่ะ อ่ะ อ่าส์!!”

เสียงครางทุ้มลอดไรฟันพร้อมของเหลวที่อัดแน่นเข้าไปในกายของไข่ตุ๋น และเอ่อล้นออกจากยามเมื่อครูมีนถอนกายออก แล้วทิ้งตัวลงนอนกอดไข่ตุ๋นที่หอยหายใจอย่างหมดแรงไว้ด้วยสองแขน เหนื่อยจนแทบสลบคาอก เหนื่อยจนเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก

เค้าอึดอัดแล้วเหนียวไปหมดเลย” 

เดี๋ยวครูพาไปล้างตัวที่ห้องน้ำ และจัดการเอาออกให้

อุ้มไปได้ไหม

ได้ครับ เดี๋ยวแช่น้ำอุ่นสัก 20 นาทีด้วยเนอะ หนูจะได้เจ็บน้อยลง

อื้อ ~ ครูมีนแช่ด้วยนะ เค้ากลัวเค้าหลับอ่า

ได้ครับ หลับบนกายครู เดี๋ยวครูดูแลเอง

คำพูดที่แสนอบอุ่นของครูมีน ไม่ได้อ่อนโยนอย่างที่ครูมีนว่า เมื่อร่างหนาช้อนกายไข่ตุ๋นขึ้นไปที่ห้องน้ำเพื่อแช่น้ำอุ่นที่รองไว้ ..ร่างกายอ่อนล้าถูกประโลมด้วยน้ำอุ่น สุขเคลิ้มจนแทบหลับลงคาอกแกร่ง แต่การปรือตาอย่างเย้ายวน แล้วกอดร่างหนาแน่นพร้อมกับเอ่ยบอกรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ไม่อาจปล่อยให้ไข่ตุ๋นพักกายในอ่างอาบน้ำได้ 

บทเรียนรักบทใหม่จึงเกิดขึ้นในนั้น และจบที่นักเรียนตัวน้อยอ่อนล้า สลบในอ้อมแขนแข็งแกร่ง ในยามที่ครูมีนถอนกายในเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นพอดี...




.......................

#ไข่ตุ๋นกับคุณครูมีน 
กลับไปเม้นที่จอยลดา หรือแท๊กในทวิตให้เค้าหน่อยน๊า 
อยากอ่านความเห็นของทุกคนเลยค่ะ ^ ^ 





วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561

X'MAS JINHWI

X'MAS JINHWI



สามทุ่มนิด ในคืนวันที่ 25 ธันวาคม ผมยืนอยู่หน้าผับแห่งหนึ่งเพื่อรอโต๊ะว่างสำหรับพวกเรา ความหวังริบหรี่ทำให้มีความคิดอยากเปลี่ยนไปร้านอื่น แต่สถานการณ์น่าจะไม่ต่างกับร้านที่พวกเรายืนอยู่ ใครจะรู้ล่ะว่าคืนคริสต์มาสโต๊ะจะเต็มตั้งแต่สองทุ่ม

ผมยืนรออีกประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้ เป็นเวลาที่นานกว่าทุก คืนที่เคยรอ แต่ถึงอย่างนั้น เครื่องหัวที่ผมใส่อยู่ก็บังคับให้รอต่อ เพราะคืนคริสต์มาสแบบนี้ต้องฉลองและเมาเท่านั้น ใครไม่ไหวก็ไปก่อนเลยจ้า

เห้ยมึง กูว่าพนักงานหาโต๊ะให้ไม่ได้หรอก แล้วดูที่ยืนรออีกหลายชีวิตพี่จีซองพูดขึ้นหลังจากไปสำรวจพื้นที่ด้านใน

ผมกับเพื่อนอีก 2 คนถอนหายใจเบา มาแล้วก็ไม่อยากกลับนะมึง” 

ไม่ให้กลับหรอก พอดีกูเจอคนรู้จัก ไปแชร์โต๊ะกับเขา พวกมึงโอเคไหมข้อเสนอของพี่จีซองทำให้เราหยุดคิด

คิดเหี้ยไรเยอะ ได้แดกก็พอ โต๊ะไหนล่ะพี่ นำไปเลยเป็นจีฮุนที่ตัดสินใจแทนพวกเรา

ผมพยักหน้าตามนั้น ก็แค่แชร์โต๊ะไม่ได้หารค่าเหล้าซะหน่อย อีกอย่างที่ร้านในวันนี้ก็สั่งปุ้ปจ่ายปั้ป ไม่น่ามีปัญหาเวลาจ่ายเงิน

งั้นตามกูมา โต๊ะอยู่เกือบกลางร้านอ่ะ คนเยอะสัสพี่จีซองอธิบายเล็กน้อยแล้วเดินนำ

ผมจัดเขากวางที่หนีบอยู่บนหัวให้แน่น ระหว่างที่เบียดจะได้ไม่หล่น และจะได้เพอร์เฟคเข้ากับธีมวันนี้ของร้าน

เราเดินตามกันเข้าไปจนถึงโต๊ะที่พี่จีซองบอก เอาจริงก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เด็กในมหาวิทยาลัยเดียวกันทั้งนั้น เพียงแค่ผมไม่ค่อยสนิท

น้องแดฮวี !!”

คนที่หัวโต๊ะทักผมเสียงดัง ผมยิ้มหวานให้แทนคำทักทาย เพราะผมจำไม่ได้ว่าเคยคุยกับเขาก่อนหน้านี้หรือเขาเป็นใคร

น่ารักจริงว่ะเสียงใครอีกก็ไม่รู้พูดขึ้น

กลายเป็นผมที่ทำหน้าที่เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างโต๊ะช่วยพี่จีซอง รายนี้รู้จักคนเยอะเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนพวกเขารู้จักผมได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน 

เราแบ่งโต๊ะกันคนละครึ่ง พวกเขามีกัน 7 คน พวกผมมี 4 คน พี่จีซองนั่งที่หัวโต๊ะฝั่งของเรา ผมนั่งติดกับใครสักคนที่แม้ชื่อก็ไม่ได้ถาม และมีสักคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมด้วย ไม่รู้เขาไปไหน

เหล่าเครื่องดื่มน้ำเมาวางลงกลางโต๊ะ ผมเปิดก่อนคนแรกเพราะอดดื่มมาหลายวัน ช่วงก่อนหน้านี้ฝังตัวเองกับหนังสือและการสอบที่มหาโหด ผมถึงบอกว่าจะเมาให้ยับเลย

ปั่ก

เสียงกระแทกรุนแรงดึงสายตาผมขึ้นไปมอง ชายหนุ่มในชุดดำกระแทกแก้วลงฝั่งเขาและกำลังนั่งลง มือข้างซ้ายของเขายกขึ้นเล็กน้อยแทนคำขอโทษ ผมไม่ได้ว่าอะไร หันกลับไปคุยกับเพื่อนและสนใจบรรยากาศรอบตัว

เสียงเพลง เสียงทักทายของดีเจ เสียงโต้ตอบระหว่างกันช่างไพเราะเหลือเกินเวลาที่เหล้าเข้าปาก ผมโยกหัวตามจังหวะเพลงพร้อมกับเพื่อนที่ตั้งใจมาปล่อยกันเต็มที่ ก่อนสายตาจะเผลอไปสบกับคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม

เขามองผมด้วยแววตาที่นิ่งเฉย เหมือนตั้งใจจ้องผมทั้งที่เพื่อนของเขาก็เริ่มจะโยกตัวกันแล้ว ผมทำเป็นมองผ่าน แต่ไม่ว่าครั้งไหนที่เผลอมองไป เขาก็ยังจ้องผมอยู่เช่นนั้น 

เราไม่รู้จักสักหน่อย แล้วคนแบบเขาน่ะ ไม่น่าใช่ประเภทที่เข้ามาเพื่อนั่งเฉย หรอก ผมมองออก

คุณมองอะไรในที่สุดผมก็ถามออกไป

มองเพื่อนร่วมโต๊ะเขาตอบเสียงเรียบ

ผมกระตุกยิ้มเล็กน้อยต้องจ้องขนาดนี้เลยเหรอ แค่ขอแชร์โต๊ะ

ทำไมต้องใส่เขากวางสายตาเขาเลื่อนจากใบหน้าผมขึ้นไปเล็กน้อย แล้วมองหน้าผมเพื่อรอคำตอบอีกรอบ

นี่คริสต์มาส ใคร ก็ใส่ผมทำเป็นมองไปรอบ

เขาไม่แม้จะปรายตามองไปไหน กลับยิ้มมุมปากแล้วยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นดื่ม

แล้วทำไมไม่ใส่สีแดงด้วย

คำถามของเขาทำให้ผมหัวเราะเบา ในลำคอคุณยังใส่สีดำเลย” 

เขาหัวเราะในลำคอคล้ายกับผมผมไม่ค่อยอิน แค่มากับเพื่อนเพื่อดื่มเฉย

ผมวางแก้วเหล้าในมือลงบนโต๊ะแล้วขยับเข้าจ้องหน้าเขา เขาไม่ถอยเลยสักนิด ตั้งรับด้วยสายตาที่ซ่อนเสือไว้ด้านในอย่างชัดเจน

ปกติคุณแค่ดื่มงั้นเหรอ

ถ้ามากกว่าดื่ม..” เสียงเข้มเว้นจังหวะแล้วขยับมากระซิบข้างใบหูคุณจะร่วมด้วยไหม

ผมหัวเราะพร้อมขยับตัวกลับเช่นเดิม มองหน้าเขาอีกสักนิด แล้วเผยความในใจร้ายนะ

คุณก็น่าจะพอตัวเหมือนกัน

ดวงตากลมละจากคนตรงหน้าไปหาเพื่อน พวกมันมองหน้าผมสลับกับคนตรงข้าม จีบปากจีบคอทำแซวตามประสาเพื่อนที่รู้กัน

ผมไม่ได้สนใจนัก ในเมื่อเสียงเพลงและแก้วเหล้าเป็นสิ่งที่ผมปรารถนาในคืนนี้ ส่วนคนฝั่งตรงข้าม... เขาจะจ้องหน้าผมต่อก็ตามใจ ไม่ได้รบกวนความสุขของผมสักนิดเลย

เหล้า 1 ขวดที่เราเปิดและมิกเซอร์ที่เราสั่งมาตอนแรกหมดเกลี้ยง เราตกลงเปิดกันขวดที่ 2 แม้จะเริ่มมึน กันแล้ว ผมได้แคร์ที่ไหน เมาแค่ไหนผมก็พาตัวเองกลับได้

เว้นแต่ยอมให้คนอื่นพากลับอะนะ

พอเหล้าขวดที่ 2 ถูกเปิดและพร้อมสำหรับการสังสรรค์ อารมณ์ที่พุ่งพล่านของแต่ละคนเริ่มจะอยู่ไม่นิ่ง เพื่อนผมเริ่มจะทักทายคนอื่นไปทั่ว เริ่มเต้นตามจังหวะเพลง ซึ่งอีกสักนิดผมก็คงยืนขึ้นเต้นกับมัน

เรา 4 คนค่อนข้างเคยชินกับสถานการณ์ในสถานที่แห่งนี้ เราดื่มกันหนัก แล้วก็ปลดปล่อนกันสุดขีด จะมีเพื่อนคนหนึ่งที่ดื่มเบากว่าเพื่อน มีมันไว้แบกกลับบ้างบางครั้ง และมีบ้างที่เราไม่ได้กลับพร้อมกันทุกคน

ผมพักลงมาชงเหล้าให้เต็มแก้ว ปล่อยพวกเพื่อนมันสนุกกันไปก่อน จังหวะนั้นผมเริ่มมองไปรอบ เพื่อนร่วมโต๊ะที่เราขอแชร์ก็เหลือกันอยู่ไม่กี่คน หนึ่งในนั้นก็ยังคงเป็นชายที่นั่งฝั่งตรงข้าม

รอบนี้เขายกแก้วเหล้าขึ้นทักทาย ดูจะช้าไปหน่อยแต่ผมก็ยกตอบ ตามมารยาทผมควรคุยกับเขา และใช่... ผมเริ่มบทสนทนารอบนี้ด้วยประโยคเดิม

ถามจริง จ้องหน้าไม่เบื่อเหรอ

จ้องอย่างอื่นน่าเบื่อกว่า จ้องคุณแทนแล้วกัน

คำพูดของเขาคล่องคอเหมือนใช้เป็นประจำ ผมมองหน้าเขาพลางยิ้มมุมปาก

จ้องนาน คิดเงินนะ

เขากระตุกยิ้มแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาจะให้ผมโอนพร้อมเพย์หรือเลี้ยงทั้งโต๊ะดีล่ะ” 

ผมล่ะยอมเขาเลย รู้แล้วล่ะครับว่ากำลังคุยอยู่กับเสือร้าย

ปากดีนะ ผมไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย

เขาขยับตัวเข้าหาผมเล็กน้อยไม่ได้ดีแค่ปากหรอก อย่างอื่นก็ดี

ผมยันตัวขึ้นจากโต๊ะแล้วขยับเข้าหาเขาอย่างท้าทายถ้าดีไม่เท่า อย่าโม้ดีกว่า

ลองไหมล่ะครับ ผมไม่ชอบคำท้าทายซะด้วยสิ

ก็... พิสูจน์สิ ว่าดีจริงไหม

คำท้าของผมราวกับเป็นคำเชื้อเชิญให้เสือตะปมเหยื่อ เพราะทันทีที่เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ มือหนาก็กระชับใบหน้าของผมเข้ารับจูบของเขาในทันที

ความร้อนของแอลกอฮอล์ยังไม่เท่าจูบของเขา ริมฝีปากเขาบดขยี้ริมฝีปากผมเหมือนเสือที่หิวกระหาย ผมจูบเขาตอบอย่างท้าทาย ดุนดันเรียวลิ้นเข้าในริมฝีปากร้อนเพื่อชิมรสเหล้าที่เขาชง พร้อม กับแย่งชิงลมหายใจของเขา

แต่มันไม่ง่ายเลย 

เขาจูบเก่งชะมัด

เราผละออกจากกันตอนที่ลมหายใจแทบหมดปอด เขามองหน้าผมพลางยกเหล้าตรงหน้าขึ้นดื่มจนหมดแก้ว กระตุกยิ้มอย่างผู้ชนะ ...ที่เขาคงคิดไปเอง

กลับก่อนเพื่อนอีกแล้วใช่ไหมมึงพี่จีซองหันมาแซว

ผมยกยิ้ม มองไปที่เขาเล็กน้อย แล้วหันมามองพี่จีซองอีกรอบ

คิดว่ามีเรื่องที่ต้องเคลียน่ะพี่” 

ผมกระตุกยิ้มเล็กน้อย ยกเหล้าที่ชงค้างไว้ขึ้นดื่มบ้าง จังหวะนี้เพื่อนปล่อยผมแล้วล่ะครับ และดูท่าว่าพี่จีซองก็รู้จักกับเขาคนนี้ แอบเห็นยิ้มให้เล็ก และไม่มีคำเอ่ยห้ามจากพี่เขาด้วย

คืนนี้คงไม่ได้กลับพร้อมเพื่อนจริง ละนะ

เขานั่งลงที่เดิม คล้ายกับรอให้ผมพร้อม สายตาของเขายังคงจดจ้องอยู่ที่ผม และจังหวะนั้นก็มีคนเดินเข้ามาทักผมพอดี 

สงสัยหมอนี่จะไม่เห็นฉากจูบเมื่อกี้สินะ

สวัสดีครับคนมาใหม่ทักขึ้น

ครับผมตอบเขาด้วยรอยยิ้มแสนหวาน

ขอโทษครับ แต่คุณคงทักผิดคนแล้ว

เสียงอื่นแทรกเข้ามา ผมหันไปมองคนที่ยืนซ้อนหลังและทำหน้าตาจริงจังอยู่ มือหนายกขึ้นโอบไหล่เล็กอย่างชำนาน ผมแอบยิ้มเล็กน้อย 

เอ่อ..”

คนที่เพิ่งทักผมเมื่อครู่เริ่มเข้าใจสถานการณ์ เขายักไหล่ช้า แล้วเดินถอยหลังไป ถึงกระนั้นมือหนาก็ยังโอบที่ไหล่

ผมไม่รู้ว่าเขาเดินอ้อมโต๊ะมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ดูท่าทางเขาก็คงไม่ปล่อยง่าย ด้วย ผมเลยยันตัวเองขึ้นยืน สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วพลิกตัวไปหาคนข้างหลัง

คิดไว้แล้วว่าเขาคงขังผมไว้ในอ้อมแขน เพราะสองแขนแกร่งยันตัวเองกับขอบโต๊ะ จ้องหน้าผมไม่วางตา

หึงแล้วเหรอครับผมแกล้งถาม

คุณยังมีเรื่องค้างคากับผมอยู่นะเขาว่าเสียงเรียบ

ผมกัดปากยั่วเขาเล็กน้อย ร่างหนาถึงกับขยับเข้ามาใกล้เพื่อจะจูบอีกรอบชอบโชว์หรือไงคุณ

แค่จูบ ไม่ใช่เรื่องแปลกในที่แบบนี้

แล้วถ้า...”

ไปกับผมตอนนี้เลยสิครับ

เขาถาม แต่เขาไม่ได้ต้องการคำตอบ เป็นเพียงคำบอกเล่าขณะที่ลากผมให้เดินตามออกไป

มือหนาจับกุมข้อมือผมตั้งแต่โต๊ะจนมาถึงลานจอดรถ ผมไม่ได้ขัดขืน ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร ก็เพราะว่าผมรู้ ผมจึงมากับเขา

ผใยันมือตัวเองกับประตูรถของเขา ใบหน้าที่ต้องแสงสีขาวในลานจอดรถทอดมาที่ผมอย่างสงสัย

ไม่ใช่บนรถผมพูดเข้าประเด็น

เขายิ้ม จับมือผมออกอย่างระวังผมให้เกียรติคุณอยู่แล้วครับ

เมื่อเขาพูดจบ ผมก็นั่งลงในรถ ร่างสูงวิ่งมาขึ้นฝั่งคนขับแล้วพุ่งตัวไปบนถนนทันที

ผมไม่ได้ถามเขาหรอกว่าจะไปที่ไหน ถ้าอยู่ในรัศมี 10 กิโล ผมก็รู้จักทุกที่ เขาหันมองหน้าผมสลับกับถนน มือหนาเอื้อมมาจับมือผมไปกุมไว้ เขาคงอยากถึงที่หมายเต็มแก่

ผมรอจังหวะที่รถเราติดไฟแดง เป็นฝ่ายโอบคอเขามาจูบ แทรกลิ้นร้อนเข้าแกล้งเรียวลิ้นหนาอย่างซุกซน และก่อนที่ไฟแดงจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ร่างกายผมก็ลอยไปนั่งคร่อมบนตัวเขา

อันตรายนะคุณเขากระตุกยิ้ม

ขับรถไม่แข็งเหรอคุณผมท้าทาย

เขาสลับเกียร์แล้วออกตัวทันที ความเร็วเร่งขึ้นเรื่อย ตามถนนที่ค่อนข้างโล่งในเวลาแบบนี้

ลองจับสิ แล้วจะรู้ว่าแข็งไหม

ผมยิ้มหวานให้เขา กดจมูกลงที่ข้างแก้ม ไล่ลงช้า ไปที่ลำคอแกร่ง เล้าโลมให้ร่างกายเขากระตุกเล่น พร้อม กับฝังร่องรอยของผมบนตัวเขาก่อน 

เขาค่อนข้างขับรถได้ดีทีเดียว จะมีเป๋บ้างที่หน้าขาไปโดนส่วนนั้น เขามองค้อนใส่ผมเพียงวินาที มันอันตรายนั่นแหละ ผมรู้ 

แต่ผมอันตรายกว่า

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นรถก็แล่นเข้าในสถานที่แห่งหนึ่ง ผมไม่ทันดูว่าเป็นโรงแรมหรือคอนโด เขาวนรถขึ้นชั้นจอดหลายรอบจนขี้เกียจนับ เมื่อจอดรถเรียบร้อย มือหนาก็ดันตัวผมติดกับพวงมาลัยรถ สายตาของเขาตอนนี้พร้อมกลืนกินผมเต็มที่ แล้วริมฝีปากร้อนก็ทับลงมาที่ลำคอผมอย่างร้อนผ่าว

อ่ะ !”

ความเจ็บทำให้ผมร้องออกมา เขาทำรอยไว้แน่ ซึ่งน่าจะเป็นรอยฟัน... 

มือหนาเปิดประตูรถออก อุ้มผมลงก่อนแล้วเขาก็ตามลงมา เพิ่งสังเกตว่ารถที่เขาขับอยู่ 7 หลัก แล้วสถานที่นี้ก็น่าจะเป็นคอนโด

พาทุกคนมาคอนโดเลยเหรอ

ถ้าบอกว่าคุณคนแรก จะเชื่อไหมล่ะ

ชวนขำน่าดู

ดีแล้ว เพราะไม่ใช่

ผมชอบคนแบบเขาอย่างบอกไม่ถูก ผู้ชายทื่อ ที่ร้อนแรงชะมัดนี้มันน่าค้นหา เขารวบมือผมไปสอดตรงหว่างนิ้ว กำมือแน่นแล้วสาวเท้าไปอย่างรีบร้อน 

ลิฟต์ที่เขากดกำลังส่งเราบนชั้น 31 เขากอดผมจากด้านหลัง พรมจูบตั้งแต่ใบหูลงมาถึงลาดไหล่ เขาไม่ได้รุนแรงกับผมเลย แต่ร่างกายผมร้อนไปหมดแล้ว

เขาปิดประตูห้องเสียงดัง เดินผ่านความมืดมาจนถึงห้องนอนแล้วผลักผมลงบนเตียงอย่างใจร้อน เขาเปิดเพียงโคมไฟสีส้มสลัว มองหน้าผมในแสงนั้นแล้วยกยิ้มบาง

เขาทำให้ผมแปลกใจ เพราะยิ้มของเขาตอนนี้ อ่อนโยนผิดจากยิ้มในร้านหรือบนรถเมื่อครู่

กวางตัวนี้ น่ารักนะครับ

เขาทำให้ผมเขิน แต่ก็ไม่อาจรู้ว่าประโยคและรอยยิ้มนั้นมีความหมายยังไงแน่ มือของเขาซุกซน และจูบของเขาร้อนแรงทุกครั้งเมื่ออยู่บนตัวผม

เขาถอดเสื้อของผมออก ถอดกางเกง ถอดทุกอย่างยกเว้นเขากวางบนหัว ผมพลิกเขากลับบ้าง เป็นฝ่ายถอดเสื้อให้เขา ถอดกางเกงให้ทีละชิ้น และสัมผัสกับเนื้อร้อนที่พองขยาย ผ่านผ้าผืนสุดท้ายที่ปดปิดของเขาอยู่ 

ผมก้มลงไปจูบกับริมฝีปากหนา บดขยี้อย่างผู้นำเกมขณะที่สอดมือเข้าใต้ร่มผ้าช้า เขากระตุกเล็กน้อย ขบกัดริมฝีปากผมตามความรู้สึก มือของเขาลูบไล้ต้นขาขึ้นมาจนถึงสะโพกของผม บีบมันช้า จนเต็มกำมือแล้วคลายออก

มือของผมครอบครองส่วนนั้นของเขา มันเต็มกำมือจนแทบกำไม่รอบ อึดอัดอยู่ใต้ร่มผ้าจนน่ารำคาญ ผมถอดปราการด่านสุดท้ายของเขาออก แสงสีส้มสะท้อนแววตาเขามายังตัวผมอย่างคาดหวัง 

ผมก้มลงจูบใต้สะดือของเขา ขยับตัวจูบขึ้นมาทีละนิด พร้อม กับขยับมือในส่วนด้านล่าง เขาหลับตาพริ้ม ผมจูบเบา ที่ข้างแก้ม ไม่รู้เขายังคาดหวังอยู่ไหม แต่ว่าผม...

อ่ะ !”

ขยับลงมาใช้ปากให้เขายิ้มออกแล้วแหละ

มือหนาลูบไล้บริเวณท้ายทอย สอดปลายนิ้วเข้าในเส้นผมของผม เขาไม่ได้กดหรือบังคับให้ผมขยับแต่อย่างใด อาจจะเพราะผมรู้งานและทำให้เขาพอใจจนต้องมองมาด้วยสายตาที่หยาดเยิ้มขนาดนั้น

เขาน่ะเป็นเสือ

ผมก็ไม่ได้ต่างจากเขาหรอก

ร่างกายของเขาอบอุ่นชะมัด แต่ของในนั้นอบอุ่นยิ่งกว่าอีก... ผมถูกพลิกให้ลงไปตามเกม เขามองหน้าผมอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ผมทำลงไป แต่ก็เป็นเขาอีกนั่นแหละที่กดจูบลงมา กวาดต้อนความหวานในปากที่หลากหลาย จนเป็นจูบที่ร้อนแรงและยาวนานจนผมจะขาดใจ 

เขาทำแบบที่ผมทำให้เขา ความรู้สึกของปลายลิ้นชวนให้ผมเคลิ้มจนคล้ายกับลอยอยู่กลางอากาศ มือเล็กจิกลงบนลาดไหล่นั่น ครางลั่นยามเมื่อร่างเบาหวิวเป็นสะสาร

เขาไม่เว้นจังหวะให้ผมได้ทิ้งตัวลงพื้นเลยสักนิด อารมณ์ผมยังลอยเคว้งบนเมฆหมอก เขาพลิกตัวให้ผมนอนคว่ำ ความอบอุ่นทาบทับลงมาในวินาทีหลังจากนั้น เขาก้มหน้ามาจูบผม บดขยี้ริมฝีปากอีกรอบอย่างไม่รู้พอ

มือหนาเอื้อมไปหยิบของจากลิ้นชัก เสียงฉีกกล่องคุ้นหูดีอย่างไม่ต้องเดา เขาโยนของในกล่องสองชิ้นไปไว้ข้าง ส่วนอีกชิ้นเขาคงจัดการมันเรียบร้อย 

บางอย่างกำลังไหลลื่นบนสะโพกของผม ความเย็นทำให้ผมเสียวไปจนสุดปลายเท้า เขาไม่เอ่ยอะไรกับผมหลังจากนั้น ร่างกายของเราต่างหากที่คุยกัน

ความคับแน่นทำให้ผมจิกเล็บลงบนที่นอน ยิ่งเขาดันสะโพกผมขึ้นแล้วรองใต้ท้องน้อยด้วยหมอน สิ่งที่แทนตัวเขายิ่งค้นหาผมได้ลึกขึ้น 

อ่ะ ..อ่ะ !!”

ผมร้อง... ครางออกมาอย่างกั๊กอารมณ์ไม่ไหว เขารู้ว่าจุดอ่อนผมอยู่ตรงไหน แล้วเขาก็แกล้งผมด้วยการเบียดชิดร่างกายเข้าไปซ้ำ

ร่างกายผมถูกเขาควบคุมอย่างสมยอม พลิกร่างขึ้นมาเพื่อมองหน้ากันอีกรอบ แล้วเขาก็ฝังตัวตนเพื่อย้ำให้รู้ ว่าคืนนี้เขาจับกวางได้อยู่หมัดแค่ไหน 

ผมแทบขัดขืนอะไรไม่ได้เลย จังหวะที่เขาอุ้มให้ผมอยู่ข้างบน มือหนายังปลอบผมด้วยการลูบเบา ที่หน้าผาก ผมค้ำมือลงบนหน้าท้องของเขา ขยับเบา ผิดกับที่เขากระทำกับผม

เขาไม่ได้มองดุ แต่เขายิ้มแล้วคอยประคองเอวผมอยู่อย่างนั้น

ร่างกายผมถูกเขาโอบลงไปแนบกับอก เขาแกล้งอ่อนโยนให้ผมตายใจ เพราะหลังจากนั้น ผมก็พูดไม่เป็นภาษาอีกเลย 

มือหนาประคองผมให้นอนราบอีกครั้ง เขาปิดเกมด้วยความดุดัน กระแทกกระทั้นจนนับจังหวะไม่ได้ เขาทำให้ผมลอยกลางอากาศอีกแล้ว แต่คราวนี้เขาโอบกอดผมแทนเมฆหมอกทั้งหมด

คุณเชื่อหรือยังว่าผมไม่ได้ดีแค่ปากเขาถามผมหลังจากเราหายใจเป็นปกติ

ผมไม่ได้ตอบเขาไป มีแต่ความเงียบและลมหายใจเบา ของผมที่พริวไหวบนอกเขา 

และอาจะเป็นเพราะผมไม่ตอบ เหตุการณ์เดิมจึงวนซ้ำอีก 2 รอบ 

จนเกือบเช้า...

เขาจูบเบา ที่หน้าผากผม กระชับผ้าห่มให้ร่างกายของผมอบอุ่น ตอนนั้นผมเกือบจะหลับแล้ว แต่เพราะเขาลุกขึ้นผมจึงคว้ามือของเขาไว้

คุณพักเถอะครับ ผมแค่จะไปหยิบชุดคลุมมาใส่ให้
ผมปล่อยมือเขา แต่ยังมองหน้าอย่างมาคำถาม สายตาของผมทำให้เขานั่งลงข้าง

มีอะไรครับเขาถามเข้าประเด็น

ผมเว้นจังหวะไปเสี้ยววินาทีก่อนจะถามคุณชื่ออะไรเหรอ

เขายิ้ม แล้วลุกขึ้นช้า สองขายาวขยับเดินคล้ายจะเมินคำถามของผม แต่ก่อนจะก้าวพ้นประตูห้องนอน เขาก็หยุดแล้วหันกลับมา

ไว้ครั้งหน้า ผมจะบอกคุณนะครับ

“...”


คุณแดฮวี




.
.
.
.


Merry Christmas naja ^ ^
เอาจริงมันคริสต์มาสนได้ป่าวแก เราก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ ๆ ตั้งใจแต่งมากจนหมดเหล้าไปครึ่งขวดละอ่ะ 55555

ขอให้มีความสุขทุกคนนะคะ

แวะไปคุยกันในแท๊ก #xmasjinhwi ด้วยเน้อ
ไม่อยากแป๊กเลย T T